เรื่องนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดอุบลราชธานี แอ๋มมีอาชีขายของชำอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี ร้านของแอ๋มก็คือบ้านของแอ๋มเองแอ๋มต่อเพิงมาหน้าบ้านเพื่อขายของชำร้านแอ๋มค่อนข้างใหญ่มีลูกค้ามาอุดหนุนเยอะทั้งคนในหมู่บ้่านและคนจร เพราะถนนเส้นหน้าบ้่านแอ๋มจะมีรถผ่านไปมาค่อนข้างเยอะ วันหนึ่งขณะฝนตกหนักแอ๋มกำลังกินข้าวอยู่กับครอบครัวก็ได้ยินเสียงรถบีบแตรดังลั่นและได้ยินเสียงรถเบรกดังยาว

แล้วสุดท้ายได้ยินเสียงดังโครมสนั่นหวั่นไหวแอ๋มและครอบครัวรีบวิ่งออกมาดูที่หน้าบ้านบนถนนที่ฝนกำลังตกหนัก รถชนกันสิบล้อและรถกะบะชนกัน สิ่งที่แอ๋มและครอบครัวเห็นคือมีผู้บาดเจ็บนอนเกลื่อนถนนประมา6/7คน แอ๋มร้องด้วยความกลัวสักพักรถมูลนิธิกับรถตำรวจตามมาด้วยรถพยาบาลก็เปิดหวอดังระงม ฝนก็ยังตกอย่างหนักขณะที่รถมูลนิธิ
กำลังนำคนเจ็บขึ้นไปบนรถแอมเห็นมีร่างคนดำๆเดินออกมาจากร่างคนเจ็บทุกคน ก็เลยงงและนึกว่าตาคงฝาดไป พออีก1วันก็มีคนมาบอกว่ารถกะบะเสียชีวิตทั้งหมดเสียตั้งแต่จะขึ้นรถแล้ว เพราะมูลนิธิบอกมา แอ๋มเลยนึกถึงวันนั้นที่เขาเห็นน่าจะเป็นวิญญาณ แล้วพอเกิดเหตุการณ์ตายโหงครั้งนี้ที่ร้านแอ๋มก็เงียบสงบแทบจะไม่มีลูกค้ามาซื้อเลยช่วงมืดค่ำ พออีก3อาทิตย์ผ่านแอ๋มก็ปิดร้าน
และกำลังจะเดินเข้าห้องครัวก็ได้ยินเสียงรถมีคนคุยกันเสียงดังมาจอดหน้าร้าน มีเสียงผู้หญิงตะโกนมาบอกว่าปิดร้านยังค่ะ แอ๋มรีบตอบยังค่ะแล้วแอ๋มก็รีบเดินไปเอากุญแจมาไขประตูเหล็กแบบเลื่อนได้หน้าร้าน ขณะกำลังจะถึงประตูแอ๋มได้กลิ่นคาวของอะไรบ้างอย่างกลิ่นนั้นคาวมาก เกือบจะอ้วกแต่ก่อนที่จะไขประตูออกไปแอ๋ม ดึงเก้าอี้มาเพื่อยืนมองที่ช่องประตูเหล็กก่อนเปิด ขณะที่ตาแอ๋มมองไปลอดช่องประตูเหล็กด้านหน้าร้าน

แอ๋มถึงกับร้องเสียงหลงเพราะไม่มีใครยืนอยู่หน้าร้านเลยสักคน แต่สิ่งที่แอ๋มเห็นเป็นคนเลือดเต็มตัวและเต็มถนนนอนเกลื่อนบนถนนหลายคน ตรงจุดที่รถชนในวันนั้นแอ๋มรีบวิ่งไปที่ห้องแล้วเรียกยายและครอบครัวดังลั่นว่าผีหลอก ยายเลยบอกจุดธูปขอขมาเขาเขาจะได้ไม่มากวนเราอีก บางทีคนตายโหงจะจำที่ที่เขาตายเขาจะเฝ้าจุดนั้นตลอดไป
ก็เลยยังไม่ยอยไปผุดไปเกิด เวลาเริ่มผ่านไป2วันแอ๋มและครอบครัวจึงทำบุญบ้านและก็ทำบุญตรงจุดที่มีคนตายเพื่ออุทิศบุญให้กับคนตาย แอ๋มเริ่มสบายใจขึ้นเพราะได้ทำบุญให้กับคนที่ตาย ตั้งแต่วันนั้นมาแอ๋มก็ไม่เจอดวงวิญญาณนั้นอีกเลยแต่แอ๋มบอกถึงจะผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่ก็ยังกลัวๆอยู่
